อยากซักชุดสวยให้แห้งทันใจ ต้องรู้ไว้ใช้เครื่องอบผ้าแบบไหนดี

                ช่วงหน้าฝนคนอยู่คอนโดคงลำบากกันหน่อย จะซักผ้าตากทุกครั้งต้องเตรียมใจไว้เลย ถ้าวิ่งเก็บผ้าไม่ทันนี่ผ้าเปียกซ้ำ ๆ ต้องซักใหม่อยู่เรื่อยไป เปลืองทั้งน้ำ ไฟ และผงซักฟอก ครั้นจะตากในที่ร่มหากไม่มีแดดส่องถึงก็จะทำให้มีปัญหาเรื่องผ้ามีกลิ่นอับ ใส่แล้วคงไม่ดีแน่นอน เป็นเรื่องที่น่าหดหู่มากจริง ๆ สำหรับผู้อยู่อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็ก ไม่มีพื้นที่กว้างขวางสำหรับการตากผ้า การมีเครื่องอบผ้าดี ๆ สักเครื่องมาเป็นผู้ช่วยจัดการเรื่องนี้ถือว่าตอบโจทย์อยู่นะ ทั้งทำให้ผ้าแห้งไว ไร้กลิ่นเหม็นอับชื้นจากเชื้อรา หายห่วงเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่จ้องเล่นงานเสื้อผ้าของเราไปเลย

การเลือกประเภทของเครื่องอบผ้า

                การอบแห้งเสื้อผ้าเป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพราะเป็นวิธีการที่สะดวก ไม่ต้องรอแดดออกผ้าก็แห้งได้แบบรวดเร็วทันใจ และในปัจจุบันก็มีให้เลือกซื้อหลากหลายประเภท ซึ่งผู้ใช้งานจำเป็นต้องทราบก่อนเลือกซื้อว่าประเภทไหนที่เหมาะสมกับบ้านหรือที่พัก โดยจากลักษณะและระบบการทำงานของตัวเครื่อง เราสามารถจำแนกออกได้เป็น 4 ประเภท ต่อไปนี้

1. ระบบลมร้อน

                ผู้ใช้งานนิยมเลือกซื้อเครื่องอบผ้าประเภทนี้เป็นอันดับแรก ด้วยราคาเฉลี่ยที่ถูกกว่าระบบอื่น หลักการทำงานของเครื่องคือการใช้ลมร้อนเป่าไล่ความชื้นให้เสื้อผ้าแห้งผ่านท่อลมร้อน และระบายลมร้อนที่อุ้มความชื้นจากผ้าออกไป การติดตั้งเครื่องอาจจะยากไปนิด คือต้องเจาะผนังเพื่อเอาท่อระบายอากาศออกด้านนอกเครื่อง จึงไม่เหมาะที่จะติดตั้งในคอนโดหรือที่อยู่อาศัยที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด

2. ระบบลมร้อนแบบพกพา

                ขึ้นชื่อว่าเป็นแบบพกพาแปลว่าสามารถเคลื่อนที่ไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก สำหรับผู้ที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ซึ่งตามกองละครก็จะพบเห็นเครื่องอบผ้าประเภทนี้ได้อยู่บ่อย ๆ ถือเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความสำคัญ หลักการทำงานจะใช้ลมร้อนเป่าเข้าในตู้ที่มีลักษณะคล้ายตู้เสื้อผ้าพลาสติกที่มีซิป วิธีใช้งานก็แค่นำเสื้อผ้าไปแขวนไว้ภายใน เครื่องก็จะทำงานโดยเป่าลมร้อนใส่เสื้อผ้าด้านในจนแห้งนั่นเอง

3. ระบบควบแน่น

                เครื่องประเภทนี้เหมาะมากกับผู้อยู่อาศัยในคอนโด สามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ที่จำกัด ไม่ต้องเจาะผนังระบายความร้อนเหมือนอย่างแบบแรก หน้าตาโดยรวมคล้ายกับเครื่องซักผ้าอย่างกับฝาแฝด หลักการทำงานของเครื่องอบผ้าประเภทนี้จะใช้ลมร้อนเป่าเสื้อผ้าให้แห้ง แต่ไม่จำเป็นต้องต่อท่อระบายความร้อนออก เพราะความชื้นที่ถูกไอร้อนไล่ออกจากเสื้อผ้านั้นจะถูกควบแน่นเป็นน้ำเก็บไว้ในช่องเก็บ อบผ้าเสร็จก็แค่ถอดช่องเก็บน้ำไปทิ้ง ง่ายและสะดวกมากจริง ๆ มีข้อแตกต่างนิดหน่อยตรงที่ผ้าที่อบด้วยเครื่องประเภทนี้จะไม่แห้งสนิททันที แต่ก็อยู่ในระดับที่รับได้

4. ระบบปั๊มความร้อน

                เป็นเทคโนโลยีที่ก้าวขึ้นมาอีกขั้น เหมาะกับที่อยู่อาศัยทุกแบบ เน้นอบให้แห้งและให้การถนอมผ้าควบคู่กันไป หลักการทำงานจะมีความคล้ายเครื่องอบผ้าระบบควบแน่น แต่อุณหภูมิที่ใช้ในการอบผ้าจะต่ำกว่า เครื่องประเภทนี้จะค่อย ๆ ปล่อยไอร้อนไล่ความชื้นในเสื้อผ้าจนแห้ง ซึ่งจะใช้เวลานานกว่าประเภทอื่น ๆ กว่าผ้าจะแห้งสนิท ด้วยอุณหภูมิความร้อนที่ไม่สูงมากเกินไปจึงเหมาะสมที่จะใช้งานกับเสื้อผ้าที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ

                สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องอบผ้าดี ๆ ไว้ประจำบ้าน หวังว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่อการตัดสินใจในการเลือกประเภทเครื่องได้อย่างถูกต้อง นอกจากนี้ก็ควรเลือกขนาดของตัวเครื่องให้มีความเหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้ รวมถึงศึกษาวิธีการใช้งานอย่างปลอดภัย ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ควรศึกษาให้ดีทั้งก่อนซื้อและก่อนใช้งาน